ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเอาวัสดุและสิ่งของต่าง ๆ มาตกแต่งร่างกาย และสถานที่
เลือกเครื่องแต่งกายอย่างไรให้เหมาะสม
1. การพิจารณาตนเอง ควรพิจารณาข้อด้อยของตนเองเพื่อนำมาปรับปรุงการแต่งกาย ให้เหมาะสม เซ่น การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะกับรูปร่างที่ผอมหรืออ้วน รูปร่างสูงหรือตํ่า สีผิวกาย เพศและวัยรวมถึงบุคลิกภาพ
2. การรับพิงคำวิจารณ์ การเปีดใจกว้างรับพิงคำวิจารณ์จากบุคคลรอบข้าง จะเป็น ข้อมลที่ช่วยให้เราลามารถทราบจุดเด่นจุดด้อยของร่างกายเรา เพื่อหาทางปรับปรุงแกไขให้ดี สับ
3. การแต่งกายให้เหมาะสม การแต่งกายให้เหมาะลมกับเพศ วัย เวลา สถานที่ จะ ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพได้อีกทางหนึ่ง
4. การพรางส่วนด้อยเน้นส่วนดี บุคคลทุกคนจะมีจุดเด่นและจุดด้อยของร่างกาย เช่น บางคนหน้าสวยแต่ขาไม่สวย จึงต้องพยามทำให้ดึงความสนใจให้คนอื่นมองที่จุดเด่น จนกระทั่งลืมมองที่จุดด้อย หรือใช้เสื้อผ้าช่วยพรางส่วนด้อยของร่างกาย
5. บุคคลที่ร่างกายเตี้ยสํ่า ควรใช้เสื้อผ้าลายเส้นแนวตั้งหรือเฉียงขึ้น เสื้อผ้าควรใช้ทรง แคบยาวคลุมละโพก กางเกงควรเป็นแบบเรียบ ๆ ไม่มีจีบ กระโปรงแบบเรียบ ๆ ควรใช้ผ้าลี เข้มแบบทิ้งตัว หลีกเลี่ยงการใช้เข็มขัดเส้นใหญ่ เครื่องประดับควรมีขนาดใหญ่กำลังดี อย่าเลือกแบบที่ใหญ่เกินไป และควรจะเป็นแบบที่ลื่อถึงความเบาสบาย
6. บุคคลที่มีร่างกายอ้วน ควรใช้เสื้อผ้าลายเส้นแนวตั้ง หลีกเลี่ยงลายเส้นโค้งหยักหรือ ทรงกลม ไม่ควรใช้เสื้อรัดรูปหรือหลวมมากจนเกินไป แบบเสื้อควรเป็นแบบเรียบ ควรใช้ เสื้อผ้าลีเข้มหรือโทนหม่น ๆ เป็นผ้าที่มีนํ้าหนัก ควรหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อแขนกุดและผ้าที่ มันวาว
7. บุคคลที่มีร่างกายผอม ควรสวมเสื้อผ้าลายขวางหรือเส้นโค้ง เสื้อผ้าควรมีการหนุน ไหล่ ควรใช้เสื้อคอปีดเพื่อบังความผอมของลำคอ ถ้าใส่เสื้อสูทควรให้ยาวคลุมละโพก เข็มขัด ควรใช้เส้นใหญ่ ถ้าสวมกระโปรงควรเป็นกระโปรงยาวปีดขา ถ้าเป็นกางเกงควรเลือกแบบมี จีบที่เอว ควรเลือกใช้เสื้อผ้าลีสว่างหรือลีอ่อน
8. บุคคลที่มีร่างกายสูงใหญ่ จะแต่งตัวได้ค่อนช้างง่าย ลามารถใช้เสื้อผ้าได้หลายแบบ แต่ที่สำคัญก็คือควรเลือกให้เหมาะลมกับเวลาและสถานที่
องค์ประกอบทางศิลปะที่นำมาใซ้ในการจัดแต่งที่อยู่อาศัย ได้แก่
1. ขนาดและสัดส่วนนำมาใช้ในการจัดที่อยู่อาศัย ได้แก่ ขนาดของห้อง ควรกำหนด ขนาดของห้องให้มีพื้นที่รองรับกิจกรรมต่าง ๆ ให้เหมาะสม เซ่น ห้องอาหาร ห้องครัว ห้องรับแขก จำนวนของสมาซิกในครอบครัว เครื่องเรือน ควรกำหนดให้มีขนาดพอดีกับห้อง และสมาซิก ไม่สูงหรือเตี้ยจนใช้งานไม่สะดวก
2. ความกลมกลืน ได้แก่
2.1 ความกลมกลืนของการตกแต่งที่อยู่อาศัย
2.2 ความกลมกลืนของเครื่องเรือน
2.3 ความกลมกลืนของสีในการตกแต่ง โดยควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของห้องผู้ใช้
3. การตัดกัน โดยทั่วไปของการจัดตกแต่งที่อยู่อาศัยนิยมทำในรูปแบบของการขัดกัน ในการใช้เครื่องเรือนในการตกแต่ง เพื่อสร้างจุดเด่นหรือจุดสนใจในการตกแต่งไม่ให้เกิดความ กลมกลืนมากเกินไป
4. เอกภาพ ในการตกแต่งสิ่งต่าง ๆ หากขาดเอกภาพงานที่สำเร็จจะขาดความ สมบูรณ์ ในการตกแต่งภายใน การรวมพื้นที่ในห้องต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับกิจกรรมจึงเป็นการ ใช้เอกภาพในการจัดพื้นที่ที่ขัดเจน การจัดเอกภาพของเครื่องเรือนเครื่องใช้ หากเครื่องเรือน จัดไม่เป็นระเบียบย่อมทำให้ผู้อาศัยขาดการใช้สอยที่ดีและขาดประสิทธิภาพในการทำงาน
5. การซํ้า ทำให้เกิดความสอดคล้องของการออกแบบตกแต่งภายใน เซ่น การปู กระเบื้องปูพื้น หรือการติดภาพประดับผนัง
6. จังหวะ การจัดจังหวะของที่อยู่อาศัยทำได้หลายลักษณะ เซ่น การวางผังบริเวณหรือ การจัดแปลนบ้านให้มีลักษณะที่เชื่อมพื้นที่ต่อเนื่องกันเป็นระยะหรือจังหวะ ทำให้เกิดระเบียบ และสะดวกต่อการทำงาน
7. การเน้นได้แก่ การเน้นด้วยสี การเน้นด้วยแสงการเน้นด้วยการตกแต่ง การใช้วัสดุ เครื่องเรือน เครื่องใช้หรือของตกแต่งต่าง ๆ
8. ความสมดุล ได้แก่ จัดตกแต่งเครื่องเรือนหรือวัสดุต่าง ๆ ให้มีความสมดุลต่อการใช้
งาน หรือเหมาะสมกับสถานที่ เซ่น การจัดทิศทางของเครื่องเรือนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการทำงาน
9. สี มีความสัมพันธ์กับงานศิลปะและการตกแต่งสถานที่ เพราะลีมีผลต่อสภาพจิตใจ และอารมณ์ของมนุษย์ ลีให้ผู้อยู่อาศัยอยู่อย่างมีความสุข เบิกบานและรื่นรมย์ ดังนั้นลีจึงเป็น บิจจัยสำคัญของการจัดตกแต่งที่อยู่อาศัยในการใซ้ลีตกแต่งภายใน
ควรใช้สีอย่างไร ให้เหมาะกับแต่ละห้อง
1. วัตถุประสงค์ของห้องหรือสถาน ที่การใซ้สีตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ ภายในบ้าน
แบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ ดังนี้
ห้องรับแขก เป็นห้องที่ใช้ในการสนทนา หรือต้อนรับผู้มาเยือน ดังนั้นห้องรับแขก ควร1ใช้สีอบอุ่น เซ่น ลีครีม ลีล้มอ่อน หรือลีเหลืองอ่อน เพื่อกระตุ้นให้เบิกบาน
ห้องอาหาร ควรมีลีที่ดูสบายตา เพื่อเพิ่มรสชาติอาหาร อาจใช้ลีที่กลมกลืน นุ่มนวล เพราะลีนุ่มนวลจะทำให้เกิดความสบายใจห้องครัว ควรใช้ลีที่ดูละอาดตา และรักษาความละอาดง่าย ห้องควรเป็นห้องที่ใช้ทำ กิจกรรมจึงควรใช้ลีกระตุ้นให้เกิดความลนใจในการทำกิจกรรม
ห้องนอน เป็นห้องที่พักผ่อน ควรใช้ลีที่ลบายตา อบอุ่น หรือนุ่มนวล แต่การใช้ใน
ห้องนอนควรคำนึงถึงผู้1ช้ด้วย
ห้องนํ้า ควรใช้ลีที่ลบายตาเป็นธรรมชาติและลดขื่น เซ่น ลีฟ้า ลีเขียว หรือลีขาว ละควรเป็นห้องที่ทำความละอาดไต้ง่าย การใช้ลีตกแต่งภายในควรคำนึงถึงทิศทางของห้อง ห้องที่ถูกแลงแดดล่องควรใช้ลีอ่อน เพื่อสะท้อนแลง ส่วนห้องที่อยู่ในที่มีด หรืออับ ควรใช้ลี อ่อนเพื่อความสว่างเซ่นกัน
1.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น